
เอริค และ เจนนิเฟอร์ คู่รักสายผจญภัย หลอกล่อ โยลันดา และ วิคเตอร์ เพื่อนของ พวกเขาเข้าร่วมสำรวจถ้ำที่ไม่เคยมีใครเคยไปมาก่อนในป่าลึกทางเหนือของออสเตรเลีย พร้อมกับความช่วยเหลือจากไกด์สำรวจถ้ำที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่าง แคช
นักสำรวจถ้ำทั้ง 5 คน เดินทางมาถึงปากถ้ำสุดลึก ขณะเดียวกันพายุก็กำลังตั้งเค้าอยู่ แต่กลับไม่มีใครสนใจ เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่าจะปลอดภัยอยู่ภายในถ้ำใต้ดินแห่งนี้ แต่แล้วเมื่อฝนกระหน่ำลงมา น้ำเริ่มท่วมภายในถ้ำ ความสับสนและตึงเครียดจึงเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาพยายามหาทางออกและเอาชีวิตให้รอด แต่แล้วเมื่อความกังวลกับการเอาตัวรอดจากระดับน้ำที่เพิ่มสูง และอากาศที่อับชื้น กลับกลายเป็นสิ่งที่พวกเขากังวลน้อยที่สุด นั่นเพราะพวกเขาค้นพบว่าพายุได้นำพาเหล่านักล่าหิวกระหายมายังถ้ำแห่งนี้ด้วย...
เมื่อมีการประกาศสร้างภาคต่อ กระชากนรก โคตรไอ้เข้ Black Water: Abyss ภาพยนตร์ที่สานต่อความสำเร็จที่แฟนเดนตาย ของภาพยนตร์เรื่อง Black Water รอคอย เหล่าแฟนๆ ก็ตอบรับด้วยความดีใจ ภาพยนตร์ภาคแรกเป็นเรื่องราวการเอาชีวิตรอดจากจระเข้แค่หนึ่งตัว แต่การมาของภาคต่อแบบนี้ ความคาดหวังก็ต้องเพิ่มสูงขึ้น เป็นธรรมดา ครั้งนี้ฉากแอคชันต้องมีมากขึ้น และคุณต้องเดาได้ว่า ..ภาคนี้จะต้องมีจระเข้มากขึ้น! การกลับมารวมตัวกันของผู้กำกับ แอนดรูว์ ทรอคกี้ และโปรดิวเซอร์ ไมเคิล โรเบิร์ตสัน ทำให้ผู้ชมมั่นใจได้เลยว่าอะดรีนาลีนจะต้องพุ่งทะลุขีดแน่นอน
Black Water: Abyss เล่าเรื่องราวของ กลุ่มเพื่อนที่เดินทางไปสำรวจถ้ำขนาดใหญ่ในป่าลึก และพบว่าตัวเองกำลังถูกล้อมโดยฝูงจระเข้ ความกลัวที่แท้จริงของเรื่องนี้ไม่ใช่ขากรรไกรสุดโหดของฝูงจระเข้ แต่มันคือความลุ้นว่าขากรรไกรสุดโหดพวกนั้นจะโผล่มาตอนไหน! ถ้ำที่เป็นสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งสวยงาม และชวนขนลุกในเวลาเดียวกัน – กลายเป็นส่วนผสมที่น่าทึ่งระหว่าง ความลึกลับและความสยอง
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 13 ปี นับจากการเข้าฉายของภาพยนตร์ภาคแรก และตอนนี้มีผู้ชมหันมาสนใจภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังมีผู้ชมกลุ่มใหม่ที่มาจากช่องทางสตรีมออนไลน์มากมาย ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะกับภาคต่อที่สุด
“ผมคิดเรื่องทำภาคต่อมาซักพักแล้วนะ แล้วพอผมได้ไปตลาดภาพยนตร์ในต่างประเทศก็เห็นชัดเลยว่าคนดูกำลังหิวกระหายหนังแนวนี้ " โรเบิร์ตสันส์ พูดแบบไม่ได้ตั้งใจปล่อยมุข
หลังจากความสำเร็จของ Black Water (2007) ภาคแรกและ The Reef (2010) ซึ่งหยิบแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงมาสร้าง โดย โปรดิวเซอร์ ไมเคิล โรเบิร์ตสัน และผู้กำกับ แอนดรูว์ ทรอคกี้ ทั้งสองคนพูดคุยและหาโอกาสกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งมาซักพักแล้ว และเมื่อผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต สลาเวียโร และโปรดิวเซอร์ นีล คิงสตัน เข้ามาร่วมวง ไมเคิลก็รู้สึกได้เลยว่าแค่เริ่มก็เป็นทีมที่ดีแล้ว โปรดิวเซอร์ นีล คิงสตัน เล่าให้ฟังว่า “ผมเป็นแฟนตัวยงของหนังต้นฉบับ และผมรู้จัก ไมเคิล โรเบิร์ตสัน มาหลายปีแล้ว พอได้ยินว่าเขากำลังมองหาโปรเจกต์ใหม่ ผมรีบบอกเลยว่า ‘เฮ้ นายมีหนังชั้นยอดอย่าง The Reef และ Black Water ทำไมเราลองเอามาทำภาคต่อล่ะ' ไมเคิลถามผมกลับว่า ผมจะไปดูแลเรื่องบทให้ไหม และตอนนั้นแหละ ความสนุกก็เริ่มต้นขึ้น”
ผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต สลาเวียโร พูดเสริมอย่างครึกครื้นว่า “ผมอยู่กับโปรเจกต์นี้กับไมเคิลและนีลมาสองปีแล้ว พอได้ถ่ายทำ มันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก! การที่มี 15 ประเทศซื้อหนังเราไปฉาย และมีค่ายในสหรัฐอเมริกาสนใจก่อนจะเปิดกล้อง ล้วนทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่ นอกจากการเป็นผู้อำนวยการสร้างแล้ว ผมยังดูแลการฉายในประเทศ ออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์ ผ่านทาง บริษัท จัดจำหน่ายภาพยนตร์ R&R ซึ่งผมเพิ่งเปิดตัวกับ ริชาร์ด หุ้นส่วน”
เพื่อให้ภาพยนตร์มีความโดดเด่นและแตกต่าง ทีมงานได้ตัว เอียน จอห์น ไรลีย์ และ ซาราห์ สมิธ นักเขียนบทมากประสบการณ์ และกำลังฮอทในออสเตรเลีย การันตีด้วยรางวัลมากมาย เข้ามาร่วมพัฒนาบทภาพยนตร์
“พวกเราเคยดูภาพยนตร์ภาคแรกแล้ว ซึ่งทำให้เราเข้าใจโทนและสไตล์ของแอนดรูว์ รวมถึงจุดแข็งของเขาในฐานะผู้กำกับ ซึ่งมักเน้นไปยัง การสร้างความตึงเครียดให้ผู้ชม และเพราะเรื่องนี้เป็นภาคต่อกลายๆ เราจึงต้องพยายามเก็บจุดแข็งของเรื่องดั้งเดิมไว้ ให้ครบ”
หลังบทเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทุกคนก็เห็นด้วยว่า แอนดรูว์ ทรอคกี้ ต้องกลับมาเป็นผู้กำกับ เพราะความจริงจังในการทำภาพยนตร์ แนวสัตว์สยองของเขายังคงมีอยู่ แต่ทีมงานไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาอยากทำหนังจระเข้อีกเรื่องหรือเปล่า
“เขาเงียบไปนิดนึงตอนผมชวน แต่เขาสนใจจะอ่านบทนะ แล้วพอเขาได้อ่าน เขาก็พูดว่า โอเค ผมกำกับ” โปรดิวเซอร์ นีล คิงสตันเล่า
แอนดรูว์ ทรอคกี้ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และเขียนบทเอง เขารู้สึกตื่นเต้นกับบทมาก “มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ที่ผมถูกชวนมากำกับ เพราะผมไม่ได้เขียนบทเรื่องนี้เอง การสร้างภาคต่อที่ได้รับอิทธิพลจากภาคแรกขนาดนี้มันเป็นหลักฐานว่าภาคแรกมันประสบ ความสำเร็จมากแค่ไหน”
“แอนดรูว์เป็นผู้กำกับที่หาได้ยากในประเทศออสเตรเลีย ผมว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่น่าจับตามองที่สุดของภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญ " นีล คิงสตันเล่า แอนดรูว์ ทรอคกี้ สนใจความสะพรึง และความพยายามเอาตัวรอด จากผู้กำกับชั้นครูอย่าง ฮิทช์ค็อก ถึง สตีเฟน คิงส์ และ แซม เรมี เขารู้วิธีที่จะจัดการกับความคาดหวังผู้ชมอย่างมีชั้นเชิงและพาภาพยนตร์แนวนี้ไปอีกระดับ
เมื่อแอนดรูว์ตอบตกลง เขาก็เข้ามาร่วมปรับแต่งสคริปต์ ทั้งลงรายละเอียด และใส่ความคิดหลายอย่างของเขาเข้ามา “ผมต้องทำงานในสองระดับ ระดับแรกคือเนื้อเรื่อง เราจะทำให้เนื้อเรื่องดีขึ้นได้อย่างไร แต่อีกเรื่องหนึ่งคือผมจะทำให้มันสำเร็จภายใต้งบ และข้อจำกัดต่างๆ ด้วย” แอนดรูว์เล่า เนื้อเรื่องเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เขาต้องคิดหาวิธีจะสร้างความสะพรึงให้มากขึ้นได้อย่างไร
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับสูตรสำเร็จของหนังแนวระทึกขวัญ เอียน อธิบายว่า “มันมีหลายสูตรมาก แต่หนังเหล่านี้มักมีส่วนผสมบางอย่าง เช่นการล่อผู้ชมว่าจะได้เจอกับอะไร ซึ่งมักจะเป็นการให้เห็นนิดหน่อยตั้งแต่เริ่มเรื่อง (เช่นการบุกของฉลามเริ่มต้นในเรื่อง JAWS) และความน่ากลัวนั้นต้องใกล้ต้วผู้ชม แม้ว่าสิ่งที่มาคุกคามจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ตาม และที่สำคัญคือการสร้างความตึงเครียด และความคาดหวังจนถึงช่วงเวลาไคลแมกซ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุด ฉากโจมตีจะเป็นการปลดปล่อยความตึงเครียด และทำให้ผู้ชมได้ระบาย”
ผู้เขียนบทร่วมอีกคน ซาราห์ เห็นด้วย “ผู้ชมต้องการจุดผ่อนคลาย เพื่อที่หนังจะสร้างความตื่นเต้นใหม่อีกครั้ง เคล็ดลับคือ การหาจังหวะ ที่ถูกต้องระหว่างการสร้างความเครียด และการคลาย ผู้ชมจึงจะถูกกดดันให้มีความตึงเครียดสูงสุด อยู่ตลอดเวลา วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ คุณต้องยิงด้วยคำถาม และคลายปมเพื่อเป็นการเพิ่มระดับเรื่อยๆ จนถึงจุดสุดยอด”
“คุณต้องทำให้คนดูคาดเดา และครุ่นคิดตลอดเวลาว่าฉากต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น” แอนดรูว์ เล่าต่อ “ผมชอบนั่งคิดตามว่า ถ้าผมอยู่ ในสถานการณ์แบบนั้นผมจะทำอย่างไร ผมจะรอดชีวิตไหม ผมชอบหนังแบบนั้นมาก” การรวบรวมนักแสดงชั้นเยี่ยม และไม่ทำให้หนังมีแต่นักแสดงที่ดูเหมือนเรื่องอื่นๆ สำคัญมากๆ สำหรับทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ นีล คิงสตัน อธิบายอย่างละเอียดว่า “พวกเขาจำเป็นต้องเป็นนักแสดงที่เก่งในหลายด้าน ตั้งแต่ผมได้เริ่มทำงานในภาพยนตร์ชุดเรื่อง Neighbours (2008 - 2012) และอีกหลายเรื่อง ผมพยายามหานักแสดงออสเตรเลียที่โดดเด่น และพวกเราเลือก ลูค มิตเชลล์ (The Code, Marvel Agents of the Shield) ซึ่งรับบทเป็น เอริค และ เจสสิกา แมคนามี (The Meg, Battle of the Sexes) ในบทเจน แฟนสาวของเอริค”
เรายังรวบรวมเอานักแสดงหน้าใหม่อย่าง อมาลี โกลเดน (จากเรื่อง Monster Problems, Bloom) ในบท โยลันดา ผู้รักความตื่นเต้น, วิกเตอร์ นักเขียนเรื่องท่องเที่ยวที่เกลียดการท่องเที่ยว รับบทโดย เบนจามิน โฮอตีส (Mystery Road, Knightfall) และนักแสดงหน้าใหม่ แอนโทนี เจ ชาร์ปี (จากเรื่อง Miss Fisher’s Mysteries, Wentworth) กับบท แคช ไกด์นำเที่ยวมือใหม่สุดห่าม “ผมเป็นแฟนตัวยงของ อมาลี และเบ็น แม้ผมจะไม่คุ้นกับงานของแอนโทนี่ แต่เมื่อได้ดูเขามาแคสพวกเราก็ต้องช็อคไปเลย” คิงส์ตันกล่าว
ไอ้เข้และถ้ำ
ภาพยนตร์ถ่ายทำใน 3 ที่หลัก ใช้เวลาถ่ายทำ 28 วัน โดยรวมเวลา 17 วันในสตูดิโอ ซึ่งเอาเข้าจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย แพม คอลลินส์ โปรดิวเซอร์ เล่าว่า “เรารู้ตั้งแต่เริ่มถ่ายเลยว่าการถ่ายจระเข้จริงไม่ใช่ความยากเดียวของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้” การออกแบบฉากเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ โดยได้ อดัม เฮด มารังสรรค์ออกแบบฉาก โดยอดัมทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้สร้าง ทำให้แต่ละเฟรมออกมาเป็นจริง ทั้งการสร้างถ้ำใต้ดินในฉากที่เกือบมืดสนิท และพื้นที่ที่น้ำต้องท่วมและแห้งได้ ยังต้องออกแบบให้ทีมงาน ทั้งนักแสดง กองถ่าย กล้องและไฟ จระเข้เทียมจำนวนมาก การออกแบบฉากต้องออกแบบให้ขยับเปลี่ยนพื้นที่ได้หลากหลาย และดู สมจริงที่สุด “เราเห็นตรงกันว่า อดัม เฮด เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้” คิงส์ตันกล่าว “ เขาเป็นผู้ออกแบบงานสร้างที่มีความสามารถ อย่างน่าทึ่ง และความคิดสร้างสรรค์ของเขามักออกมาในระดับที่ใหญ่มาก”
อดัมเคยผ่านการร่วมงานในภาพยนตร์เรื่อง The Reef กับทั้ง ไมเคิล และ แอนดรูว์ แล้วอดัมก็รู้ดีว่าเขาต้องทำอะไร อดัมเคยร่วมงานกับมืออาชีพเรื่องจระเข้อย่าง สตีฟ เออร์วิน และเขายังเคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง The Crocodile Hunter: Collision Course (2002) อดัม มีความสามารถที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเกินพอ
“ผม แอนดรูว์และทีมโปรดิวเซอร์ได้ทำการบ้านเกี่ยวกับถ้ำอย่างจริงจัง จากนั้นเราก็เริ่มที่จะหาขนาดถ้ำที่เข้ากับบท” อดัมกล่าว “เราลองเริ่มด้วยสระว่ายน้ำขนาดเล็ก แต่สุดท้ายมันก็ใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นสระว่ายน้ำขนาด 20 x 20 เมตร ซึ่งเราสร้างถ้ำในสระว่ายน้ำ ซึ่งใส่น้ำได้ถึง 300 ตัน” การสร้างถ้ำเหมือนจริงในช่วงเวลาสั้นๆ ทีมต้องทำงานแข่งกับเวลา “คุณต้องสร้างแม่พิมพ์หินด้วยยางขนาดยักษ์ และเทโฟมลงในแม่พิมพ์ ซึ่งแม่พิมพ์ต้องลอกมาจากหินจริง ซึ่งทีมงานได้มาจากหินในแถวคูรุมบินของรัฐควีนส์แลนด์ เพื่อความสมจริง” ผู้ควบคุมให้ความฝันกับความจริงอยู่ในงบการสร้าง ตกเป็นหน้าที่ของ คอลลินส์ “มันเป็นการทำงานที่ออกมาน่าทึ่งมาก ฉากหลัก เมื่อใส่น้ำท่วมดูสมจริงมาก และเมื่อพอเราปรับแสงให้มืด มันช่างดูน่ากลัวจริงๆ” นักแสดงทุกคนต่างเห็นด้วย เจสสิกา แมคนามี นักแสดงที่ไม่ใช่มือใหม่ในโลกภาพยนตร์ระทึกขวัญ หลังจากได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ฉลามนักฆ่าอย่างเรื่อง The Meg เล่าถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “วันที่เรามาถึงกองถ่ายวันแรก มันเหมือนกับได้เห็นโลกใหม่จากที่เราได้อ่านในบทเลย ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นภาพเลย มันเท่ห์มาก ฉันหมายถึงมันหนาวมาก นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากบอก ด้วยน้ำสีทะมึน และน่ากลัว ความคิดของคุณเล่นตลกกับความรู้สึกคุณได้ตลอดเวลาแน่นอน”
และเธอไม่ได้คิดแบบนี้คนเดียว “ครั้งนึงผมเห็นสิ่งเคลื่อนไหวมามืด ในหัวผมคิดว่ามันน่าจะเป็นจระเข้เทียมที่ควบคุมระยะไกล และทีมงาน กำลังทดสอบอะไรอยู่ ตอนมันขยับใกล้เข้ามาผมยื่นคบเพลิงผมไปดูใกล้ๆ มันเป็นแค่ส่วนตัวของจระเข้เทียมที่ทำให้ผมตกใจจนต้องร้อง ออกมาเลย " แอนโทนีกล่าวเสริม เมื่อพูดถึงชิ้นส่วนจระเข้เทียมในการถ่ายทำ อดัมเล่าว่า “ผมว่าการไม่บอกนักแสดงว่าฉากที่ต้องเจอมีร่างกายมนุษย์เทียมอยู่ด้วย ผมว่า เราต้องไม่ซ้อมฉากนั้น เพื่อให้นักแสดงตกใจอย่างสมจริง” และนักแสดงก็ตกใจเหมือนที่ทีมสร้างคาดไว้ การที่ต้องถ่ายกับฉากในน้ำตลอดสามสัปดาห์ครึ่ง จากการถ่ายทำห้าอาทิตย์ครึ่งทำให้นักแสดงรู้สึกอยู่ในบทตลอดเวลา ทรอคกี้ เล่า “มันเป็นการถ่ายทำที่ยาก และท้าทายร่างกายของทุกคน เพราะการถ่ายในน้ำยากกว่ามาก แม้จะเป็นฉากง่ายๆ เช่นการเดิน พอทุกย่างเปียกหมด คุณจะเหนื่อยมาก และคุณยังต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ฝูงจระเข้จ้องทำร้ายคุณตลอดเวลา แต่ทุกวัน นักแสดงทุกคน ก็ยังแสดงออกมาได้เหมือนที่ผมคาดหวังไว้ พวกเขาเป็นนักแสดงชั้นยอดจริงๆ”
อมาลีเล่าถึงประสบการณ์เบื้องหลังว่า “เหมือนตัวละครที่ผมเล่น พวกเราโดนบีบให้ต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าตลอดเวลา เพราะเมื่อ คุณต้องเอาตัวรอดกับเหตุการณ์ที่คุณเตรียมตัวก่อนไม่ได้ พอคุณอยู่ตรงนั้น ทั้งเปียก ทั้งมืด มันทำให้คุณรู้สึกว่าคุณอยู่ในถ้ำจริงๆ และมันทำให้พวกเราทำงานง่ายขึ้นมากเลย” ถึงการทำงานในฉากที่ทั้งเปียกทั้งมืดจะไม่ใช่เรื่องง่าย เหล่านักแสดงต้องเข้าอบรมความปลอดภัยในการดำน้ำ และการสำรวจถ้ำก่อน การถ่ายทำ เบนจามิน ผู้ที่ตัวจริงไม่เหมือนตัวละครผู้กลัวความเสี่ยงอย่าง วิคเตอร์ เขาเป็นนักปีนหน้าผาและปีนถ้ำตัวจริง รู้สึกสบาย กับการฝึกเหล่านี้มาก “ผมพยายามทำตัวเหมือนไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ ผมจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ และความตื่นเต้นของคนไม่เคยผจญภัยอะไร แบบนี้ซึ่งผมชอบมาก เพราะเมื่อคุณทำอะไรบ่อยๆ มันจะกลายเป็นสัญชาตญาณมากกว่าความสนุกทั้งการอยู่ใต้น้ำหรือการใต่เชือก
ลูค มิตเชลล์ นักแสดงออสที่ปักหลักอยู่อเมริกาสนใจร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะตัวผู้กำกับคนเดียว โอกาสที่จะได้ร่วมงานกับทรอคกี้ และได้กลับบ้านเกิดไม่ใช่โอกาสที่จะผ่านมาบ่อยๆ “ผมชอบที่เขาอยากทำภาพยนตร์ที่เรียบง่าย ทั้งการจัดแสงจริง ซึ่งมันทำให้นักแสดง สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น แม้จะต้องทำงานในน้ำที่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ การใช้จระเข้จริงก็เหมือนกัน แต่พวกเราไม่ได้แสดงใกล้พวกมัน หรอกนะ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นจริงๆ” เอกลักษณ์ของผู้กำกับทรอคกี้ คือการใช้สัตว์จริงในภาพยนตร์ แม้ว่าซีจีไอ จะทำอะไรได้เยอะขึ้นในยุคนี้ แต่มันไม่มีอะไรเหมือน ของจริงหรอก แอนดรูว์ อธิบายต่อ “การตัดสินใจใช้จระเข้จริง ทำให้ภาพยนตร์สมจริงมาก ไม่ว่าเรื่องราวจะดูเกินจริงแค่ไหน แต่ภาพ ตรงหน้าก็ทำให้เราเชื่อได้ และผมว่ายิ่งใช้ความจริงในการเล่าเรื่องเท่าไหร่ หนังก็ยิ่งพาคนดูไปได้ไกลเท่านั้น” และมันก็คือเรื่องจริง จระเข้ความยาว 15 ฟุตใช้ในการเข้าฉากภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูแลโดยนักสัตววิทยามืออาชีพ และมันอาศัย อยู่ในสระหลังบ้านเขาเองด้วย
“แม้การถ่ายทำเรื่องนี้จะจัดการง่ายกว่าภาคแรก แต่การทำงานกับสัตว์เป็นเรื่องใหญ่เสมอ เพราะเราต้องเข้าใจว่ามันเป็นสัตว์ป่า และ จะไม่ทำตามสั่งง่ายๆ เราจึงต้องใจเย็นรอ และด้วยเนื้อเรื่องที่ส่วนใหญ่เกิดตอนกลางคืน เราจึงต้องถ่ายกันตอนกลางคืน มันเป็นเรื่อง ที่บ้าบอมาก แต่ผมดีใจที่เราตัดสินใจใช้จระเข้จริง เพราะมันทำให้หนังเราสมจริงไม่เหมือนใคร” โปรดิวเซอร์คอลลินสรุปให้ว่า “เราใช้จระเข้เทียมเพื่อเข้าฉากกับนักแสดงเพื่อให้พวกเขารอดชีวิตหลังจากการเข้าฉาก และเราเอา จระเข้จริงไปแทนตัวปลอมในช่วงตัดต่อ” ทีมงานของอดัมได้สร้างจระเข้เทียมออกมาหลากหลายแบบ ทั้งจระเข้เด็ก และจระเข้ในท่าทางต่างๆ รวมถึงบางตัวที่ขยับได้ ทำให้มันตีน้ำเหมือนจระเข้จริงๆ ได้ ผู้กำกับทรอคกี้กล่าวว่า “การใช้จระเข้จริงมันทำให้ความสมจริงและความน่ากลัวชัดเจนมาก ไม่ว่าซีจีจะดีแค่ไหน มันไม่มีอะไร น่ากลัวเท่าจระเข้จริงหรอก”
“ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เอาอารมณ์ความระทึกแบบออสเตรเลียเข้ามาใส่ในภาพยนตร์แนว สยองขวัญได้ดี ทั้งการใช้สถานที่ ถ่ายทำท้องถิ่น และสัตว์ท้องถิ่นตัวจริงนการถ่ายทำ” คิงสตันเล่าให้ฟังเมื่อเราถามถึงประสบการณ์จากการถ่ายทำ “มันเป็นหนังที่เราตั้งใจไว้สูง และเราก็พอใจที่มันออกมาให้ทุกคนสนุกกันได้อย่างเต็มที่”
ตัวละคร
เจนนิเฟอร์ (รับบทโดย เจสสิกา แมคนามี Jessica McNamee)
เจนนิเฟอร์ สาวผู้รักครอบครัวและหัวโบราณ การเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉิน ทำให้เธอชอบความรวดเร็ว และความคาดเดาไม่ได้ของงาน เธอพบกับเอริค ระหว่างกำลังปีนเขา และตกหลุมรักเขาทันที เธอเทุ่มเทกับเอริคมากถึงขนาดย้ายตามมาที่ซิดนีย์ แต่ก็ทำไป เพราะเธอรู้ว่า นี่คือผู้ชายที่เธออยากแต่งงานด้วย เธอเป็นคนซื่อสัตย์ รักสนุกและเอาตัวรอดเก่งในยามวิกฤต
เอริค (รับบทโดย ลูค มิตเชลล์ Luke Mitchell)
หนุ่มผู้รักการผจญภัยและความตื่นเต้น เอริคทำงานเป็นนักลงทุน ซึ่งเขาเล่นกับความเสี่ยงด้วยเงินของคนอื่น พ่อแม่ของเขาหย่ากันเมื่อเขา ยังเด็ก และทั้งคู่แต่งงานใหม่ซึ่งมีส่วนทำให้เอริครู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์และรู้สึกโดดเดี่ยว เขามักจะมองหา ความตื่นเต้นใหม่ๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกที่ไม่มีใครรัก เขาเป็นคนกล้าหาญตรงไปตรงมา และเป็นผู้นำ
วิคเตอร์ (รับบทโดย เบนจามิน โฮอตีส Benjamin Hoetjes)
วิคเตอร์ นักเขียนเรื่องการท่องเที่ยวกับงานน่าเบื่อ เพราะวิคเตอร์ไม่ชอบเที่ยว เขาอยากออกมาขียนนวนิยาย และเริ่มต้นครอบครัวกับ โยลันดา วิคเตอร์ มีอารมณ์ขันและอารมณ์ฉุนเฉียวแบบชาวออสเตรเลียแท้ๆ แต่เขาเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีและถึงแม้เขาจะขี้บ่น เขาก็ชอบไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ
โยลันดา (รับบทโดย อมาลี โกลเดน Amali Golden)
ครูมัธยมอย่างโยลันดามีชีวิตอยู่เพื่อรอคอยวันหยุด วันที่เธอสามารถสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ เธอเหมือนเป็นเอริคภาคผู้หญิง ทั้งสองหัวเราะเรื่องเดียวกัน และชอบอะไรเหมือนๆ กัน เธอแอบชอบเจนนิเฟอร์ แต่เธอก็คิดว่าคงไม่เริ่มอะไร
แคช (รับบทโดย แอนโทนี ชาร์ปี)
หนุ่มผู้รักการเล่นกระดานโต้คลื่น และการแสวงหาความตื่นเต้นแบบสุดขั้ว เขาเป็นคนที่มักจะมองหาการผจญภัยครั้งใหญ่ หรือวิธีหาเงินใหม่ๆ อย่างเช่น การนำเที่ยวถ้ำที่ไม่เคยมีใครสำรวจ โอกาสที่เขาจะได้ทำทั้งสองอย่าง เขาเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ แต่จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ และแคชรู้จักเอริคมานาน เขายังไม่พร้อมที่จะปักหลักตัวเองเป็นหลักแหล่ง แต่เขาวาดฝันไว้ว่า จะหาแฟนสาวสักคนทันทีที่เขาเก็บเงินได้ล้านเหรียญแรก
ประวัติของนักแสดง
เจสสิกา แมคนามี รับบทเป็น เจนนิเฟอร์
เจสสิกา แมคนามี เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ฮอลีวูดต้องการตัวที่สุด ล่าสุดเธอได้ร่วมแสดงกับหนังสยองขวัญของค่าย Warner Bros. ‘The Meg’ นำแสดงโดย เจสัน สเตธแธม และ รูบี้ โรส ก่อนหน้านี้เธอได้ร่วมแสดงใน Battle of the Sexes พร้อมกับนักแสดงแถวหน้าอย่าง Emma Stone และ Steve Carell เจสสิกาได้รับบทนักเทนนิสชื่อดัง Margaret Court ซึ่งเคยเป็นนักเทนนิสอันดับ 1 เจสสิกายังแสดงประกบ Michael Pena และ Dax Shepherd ใน Comedy Chips ของค่าย Warner Bros.
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของเธอ ได้แก่ The Neighbor ของ Aaron Harvey และ William Fichtner และ Screen Gems ’The Vow นำแสดงโดย Rachel McAdams และ Channing Tatum ในด้านโทรทัศน์ เธอมีร่วมแสดงในซีรีย์ตลกเรื่อง Sirens ที่สร้างโดย Dennis Leary เจสสิกาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในภาพยนตร์ชุดเรื่อง Packed to the Rafters ในบท Sammy Rafter นอกจากนี้เธอยังปรากฏตัวในซีรีย์ Home and Away กว่า 30 ตอน
ลูค มิตเชลล์ รับบทเป็น เอริค
ลูค มิตเชลล์ รับบทนำในซีรีส์เรื่องใหม่ทาง CBS เรื่อง The Code ประกบ Dana Delaney ลูค แสดงในซีรีส์ดัง Blindspot ซีรีส์ยอดฮิตของ NBC และก่อนหน้านั้นในฐานะที่เป็นคู่รักของ Chloe Bennett ใน Marvels Agents of Shield ของ ABC เขาแสดงในภาพยนตร์อินดี้เรื่อง Mothers and Daughters กับ Christina Ricci, Courtney Cox, Sharon Stone, Susan Sarandon และ Mira Sorvino และก่อนหน้านั้นเขาร่วมแสดงในซีรีย์ดรามาเรื่อง The Tomorrow People for Greg Berlanti และยังแสดงในภาพยนตร์อินดี้ของ Seven Martin, Seven Minutes คู่กับ Leven Rambin และ Jason Ritter หลังจากการเริ่มต้นที่น่าประทับใจของเขาในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของออสเตรเลียที่แสดงนำ ในซีรีส์ฮิต H20 มิตเชลล์ ก็ย้ายไปที่ซิดนีย์ เพื่อเข้าร่วมทีมนักแสดงหลักของ Home and Away ในบทโรมิโอ สมิธ ซึ่งเขาได้รับรางวัล นักแสดงหน้าใหม่ชายจาก เวที Logie ในปี 2010
อมาลี โกลเดน รับบทเป็น โยลันดา
ก่อนจะเข้าสู่วงการการแสดง อมาลี โด่งดังจากรายการ Australian Idol และมีเพลงฮิตหลายเพลง เธอยังสร้างชื่ออีกครั้ง ด้วยการเข้ารอบสุดท้ายของรายการ X Factor อมาลี ถ่ายทำภาพยนตร์ ของค่าย Paramount เรื่อง Monster Problems (2019) คู่ Dylan O’Brien เมื่อเร็ว ๆ นี้ อมาลี ได้แสดงในซีรีส์เรื่อง Bloom (2019) กับ Jacqui Weaver, Phoebe Tonkin และ Ryan Corr และรับบทแขกรับเชิญในซีซั่นที่ 2 ของช่อง ABC เรื่อง International Harrow (2019) Amali รับบทเป็น 'Amy Ward' ในมินิซีรีส์ Stab ดั้งเดิม 6 ตอนมิ นิซีรีส์ The Other Guy (2019) ซึ่งเธอทำหน้าที่เขียนและร้องเพลงประกอบซีรีส์ด้วย นอกจานี้ เธอยังได้ร่วมงานใน Thor: Ragnarok (2017) และรับบท Felicity Cox ในซีรีส์ชื่อดังอย่าง Home and Away (2017)
เบนจามิน โฮอตีส รับบทเป็น วิคเตอร์
เบนจามิน ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะที่เป็นคนคุ้นเคยบนหน้าจอของเราพร้อมกับบทบาทในการผลิตที่หลากหลาย เขาได้ปรากฏตัวในซีรีส์ที่ชนะสองรางวัลสำหรับ ABC ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา - Mystery Road ควบคู่กับ Aaron Pederson และ Judy Davis และ The Code กับ Dan Spielman, Anthony LaPaglia และ Ashley Zukerman และยังมีรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึง ละครที่ได้รับรางวัลของ Saul Dibb NW จากนวนิยายของ Zadie Smith, Knightfall มหากาพย์ทางประวัติศาสตร์ของ A&E Studios, The Home and Away, ซีรีส์ออสเตรเลียเรื่อง The Doctor Blake Mysteries และ The Time of Our Lives และภาพยนตร์สารคดี กำกับการแสดงโดย 10x10, Suzi Ewing กับ Luke Evans และ Kelly Reilly และ Felony นำแสดงโดย Jai Courtney และ Joel Edgerton บนเวทีเบนจามินแสดงที่ MTC, Malthouse และ Ensemble ทั้งในบทละครและละครเวที
แอนโทนี เจ ชาร์ปี รับบทเป็น แคช
แอนโทนี่ เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในบทบาท Cecyl 'Cec' Yates ในภาพยนตร์ลึกลับ Miss Fisher’s Murder Mysteries ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้ง 3 ซีซั่น เขากลับมารับบท Cec ในภาพยนตร์ Miss Fisher and The Crypt of Tears เครดิตอื่น ๆ ของ Anthony ได้แก่ซีรีส์ดังอย่าง Wentworth, Murder, Snappers, Wiped, City Homicide, Neighbor และ Blue Heelers Films The Orchard, Robert The Bruce และ Mutt รวมถึงหนังสั้นอีกหลายเรื่อง แอนโทนี่ยังเป็นนักดนตรี / นักร้องมากความสามารถ ที่มีงานแสดงทั่วประเทศ
Comments