
บทบาท-คาแร็กเตอร์
สำหรับ โอม คาแร็กเตอร์ของเขาคือเด็กคนหนึ่งที่อยากขีดเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง แม้ว่าที่ผ่านมาโอมจะอยู่ในโอวาทของแม่มาตลอด พอเขามาค้นพบเกม RoV ที่เขาอยากจะเล่นมันเป็นอาชีพและกลายเป็นความฝันจริงๆ ซึ่งจุดนี้มันทำให้รู้ว่าสิ่งที่โอมชอบที่สุดกลับไม่ใช่การเรียน แต่คือการเล่นเกม และเขาก็อยากที่จะตั้งใจทำมันให้สำเร็จ ผมคิดว่าเนี่ยแหละ โอมเขากำลังทำในสิ่งที่แม่ทำไม่ได้ มันเลยเกิดเป็น Conflict ระหว่างเขากับแม่ขึ้นมา โดยในเรื่องนั้น โอมเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ทุกคนจับตามองในทีม “Higher” ที่เขาต้องแบกทั้งทีมด้วยความเชื่อมั่นในฝีมืออันเก่งกาจของตัวเอง มันเลยทำให้โอมกลายเป็นคนที่ชอบกดดันตัวเอง และเก็บกดอยู่ตลอดเวลาพอสมควร
เรื่องราวของ “Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่”
เหตุการณ์ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ก็มาจากโอมกับแม่ครับ เพราะโอมได้ค้นพบสิ่งที่เป็นความฝันของเขา แต่สิ่งนี้มันดันกลายเป็นความขัดแย้ง เพราะว่าแม่ไม่เข้าใจโอม ซึ่งคุณแม่หรือ “ครูเบญจมาศ” (อ้อม พิยดา) เป็นคนคิดโครงการปลอดมือถือของโรงเรียน ฉะนั้นถ้าโรงเรียนเป็นแบบนี้แล้ว ที่บ้านก็แทบไม่
ต้องพูดเลย (หัวเราะ) แล้วเผอิญว่าโอมชอบเล่นเกมขึ้นมาก็เลยเกิดเป็นประเด็นตรงนี้ขึ้นมา โอมก็รู้สึกว่าตัวเองทนมาพอแล้วกับการทำตามในสิ่งที่แม่ขีดเส้นไว้ เขาจึงตัดสินใจไม่คุยกับแม่ เพราะเขาอยากทำในสิ่งที่เขาต้องการให้เป็นอาชีพจริงๆ ได้ และอยากจะพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้แม่เห็น จริงๆเขาก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่งที่รักแม่มาก และมีวิธีในการแสดงออกที่อยากให้แม่เข้าใจ จนสุดท้ายแม่ดันไปตั้งทีมที่รวมเหล่าสมาชิกเกรียนๆ มาแข่งกับโอม มันเลยเหมือนว่าแม่ไม่สามารถเอาชนะโอมได้ในชีวิตจริง แต่พยายามมาเอาชนะในเกม โดยในเรื่องนั้นโอมอยู่ทีม “Higher” ที่เป็นทีมที่เก่งที่สุดในวงการอีสปอร์ตและมีชื่อเสียงมานานมากครับ ตัวโอมก็เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ทุกคนจับตามอง และเป็นเขาที่พร้อมจะแบกทีมประมาณหนึ่งด้วยความเชื่อมั่นในฝีมืออันเก่งกาจของตัวเองด้วย
การหวนคืนสู่ภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 9 ปี
ภาพยนตร์เป็นงานที่ผมรักมากครับ เพราะผมก็เติบโตมากับการดูหนัง มันเลยทำให้ผมเป็นคนที่อินด้านภาพยนตร์มากที่สุดในงานแสดงทั้งหมด ผมชอบ Process ของการทำงานไม่ว่าจะเป็นวิธีการถ่ายทำ วิธีการโพสต์โปรดักชั่น และวิธีการที่สร้างตัวละคร แล้วยิ่งพอรู้ว่านี่เป็นหนังของทางสหมงคลฟิล์มฯ ด้วย คือเราชอบ “โหมโรง” มากๆ เป็นหนังในดวงใจของผมตั้งแต่เด็กเลย เพราะเรารู้สึกเลยว่ามันเป็นงานปั้นจริงๆ ซึ่งพอได้มีโอกาสมาร่วมงานใน “Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่” ก็ทำให้ค้นพบว่าทุกซีนทุกฉากของทุกวันที่ถ่ายไปคืองานปั้นแบบสุดๆ ถ่ายตอนบ่ายวันนี้และเลิกตอนเช้าในอีกวัน เป็นอยู่อย่างนี้เกือบทุกคิวเลยครับ แต่การเลิกเช้ามาแล้วก็รู้สึกดีใจและก็ภูมิใจกับงานที่มันกำลังจะออกมาครับ และเราก็เชื่อมั่นในทีมงานทุกๆ คน รวมถึงพวกเขาที่เชื่อในตัวผมด้วย รู้สึกดีใจมากจริงๆ อยากขอบคุณทุกคนที่ให้ผมมาเล่นครับ
การเตรียมตัวเพื่อแสดงเรื่องนี้
พาร์ตของผมจะเป็นอีโมชั่นมากที่สุดในเรื่องนี้เลย มันก็จะยากมากๆ เพราะผมไม่ใช่คนที่สามารถร้องไห้ได้ทันที และต้องใช้อินเนอร์พอสมควร รวมถึงต้องไปจูนกับคนอื่นๆ ด้วย ขณะเดียวกันผมมักจะมีการดีไซน์ไว้ในหัวก่อนแล้วว่า โอมต้องเครียด ต้องหน่วง ฉะนั้นซีนดราม่าอาจไม่ยากนัก แต่ความยากคือความไม่นิ่งของตัวละครตัวนี้ บางอย่างเราทำมาแน่นแล้ว พอเหมือนกับว่าถูกหยิบบางอย่างออกนิดเดียวเท่านั้น ก็ทำให้เรา Blank ได้เหมือนกัน
การร่วมงานกับสุดยอดทีมงาน
มันคืองานที่ผ่านการคิดมาอย่างละเอียดจริงๆ ครับ ทุกซีนทุกฉากของหนังเรื่องนี้คือสุดยอดงานปั้นที่วางแผนมาเป็นอย่างดีเลย เราเชื่อมั่นในตัวผู้กำกับ “พี่เสือ ยรรยง” รวมถึงเชื่อมั่นในตัว “พี่เอ็ม สุรศักดิ์” ผู้ช่วยผู้กำกับ เชื่อมั่นในตัว “พี่แอ้น ภาเกล้า” ตากล้อง “ครูเอ นัฐพงศ์” แอคติ้งโค้ชที่เป็นทุกอย่างให้แล้วจริงๆ ในกองนะครับ คือทุกคนก็เชื่อมั่นในตัวเรา เราก็ต้องเชื่อมั่นในตัวทุกคนว่าสิ่งที่เราทำออกมาแล้วเขาบอกว่าโอเค เราก็โอเคจริงๆ ก็อยากรอดูครับว่าจะเป็นยังไง
ลูกชายกับแม่ “อ้อม พิยดา”
ผมรู้สึกว่า “พี่อ้อม” เขาเหมือนพี่สาวผมมากเลยครับ เพราะเราสามารถพูดกับเขาได้ในหลายๆ เรื่อง แต่พอเข้าซีนแล้วนั้น ผมเป็นโอมก็จะมองว่านี่แหละคือแม่ของเรา ซึ่งข้อดีคือเราทำการบ้านมา และพี่อ้อมก็แสดงในแบบที่เราจินตนาการไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมุมความรักและต่อต้านในเวลาเดียวกัน แล้วในหนังก็จะมีฉากที่ผมกับพี่อ้อมต้องแสดงซีนแอคชั่นด้วยกัน พี่อ้อมยังแข็งแรงกว่าผมอีกนะ (หัวเราะ) เขาทำได้หมดและไม่ห่วงสวยเลย เขาคือนักแสดงที่ดีมากครับสำหรับผม
แอคชั่นกับ “เติร์ด ลภัส”
ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ตอนถ่ายคือ ซีนแอ็คชั่น ซึ่งเอาจริงๆ พี่เสือน่าจะบอกไว้ก่อนนะครับว่าแคสต์นี้ต้องการคนที่เล่นแอคชั่นได้ ล้อเล่นๆ (หัวเราะ) คือผมอ่ะไม่เคยเล่นแอคชั่นมาก่อนเลย เนื่องจากร่างกายของผมด้วย และผมก็ไม่ใช่คนที่เล่นกีฬาต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงมัธยมผมจะเคยเป็นนักกีฬามาก่อนนะครับ ก็คือเล่นฮอกกี้ แต่พอจบมัธยมไปก็ไม่ได้แตะกีฬาอีกเลยครับ และพองานนี้เราต้องมาแอคชั่นร่วมกันกับ “เติร์ด” ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เก่ง ยิ่งพอเราได้เจอกันแค่ซีนเดียวคือ ซีนดวล 1 ต่อ 1 ที่เป็นฉากสำคัญของเรื่อง เพราะมันคือการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ตัวท็อปต่างรุ่นที่ต้องมาไฟต์กันครับ ก็ยิ่งทำให้เห็นเลยว่าเติร์ดเขาเก่งมากจริงๆ ทั้งเดือดมาก ปล่อยหมัดใส่กันเยอะๆ ซึ่งเติร์ดก็ช่วยผมไว้มากทีเดียว
แม้ว่าก่อนถ่ายผมจะไปเวิร์กช็อปชกมวยหลังจากได้เห็นคลิปเติร์ดต่อยมวยที่พี่เสือส่งมาให้ดู งานนี้ผมต้องไม่ยอมแล้วครับ (หัวเราะ) ขอเข้ายิมบ้างเพื่อเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมที่สุด เนื่องจากมันเป็นซีนที่ต้องใช้ร่างกายเป็นหลัก ทั้งกระโดด ต่อยเตะ และโชว์ท่าแอคชั่นสวยๆ โดยพี่เขาเองก็เป็นนักเต้นอาชีพ ฉะนั้นจึงมีความแข็งแรงอยู่พอสมควร มันเลยเหมือนเขาต้องช่วยผมในการรับรีแอคเสียมากกว่า เพราะมันเป็นฉากแอคชั่นที่จะเวอร์ๆ หน่อย เริ่มถ่ายทำตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถัดจากที่ซ้อมกันตั้งแต่บ่าย 3 แล้วก็เข้าฉากสลับกับการ
ซักซ้อมในบางช่วงจนถึง 6 โมงเช้าไปเลย ซึ่งทุกอย่างก็จะดูยิ่งใหญ่ ดูทรงพลัง ดูเป็นเกมมากๆ แล้วเท่าที่ผมจำได้รู้สึกว่ามัน ‘ว้าว’ แบบที่เราไม่เคยเห็นในหนังไทยเรื่องไหนๆ มาก่อนเลยครับ บอกได้เลยว่าเดือดแน่นอน
การร่วมแสดงกับโปรเพลเยอร์อีสปอร์ตตัวจริงระดับประเทศ
ผมอยู่ในทีม “Higher” ก็จะมี “พี่กิตงาย, หมอทอม, ลีโอ และ พี่ไม้” ซึ่งทุกคนเก่งมากเลยครับ แม้ตัวผมเองจะชอบเล่นเกมอยู่แล้ว และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่คลั่งวงการอีสปอร์ตอยู่เหมือนกัน เคยตื่นตี 5 มาดูถ่ายทอดสดการแข่งขัน และเห็นเลยว่านักแข่งทุกคนเขามีความจริงจังในสิ่งที่ทำมากๆ ผมนับถือพวกเขาเลย และพอมาวันนี้ได้เจอกับโปรเพลเยอร์ตัวจริงที่มาร่วมฉากแสดงด้วยกัน และต้องเล่นเกมด้วยกัน แต่ความยากคือเราเล่นเป็นทีมทั้ง 5 คนก็ต้องจินตนาการให้เหมือนกันทุกคน ซึ่งพี่ๆ เขาช่วยผมเยอะมาก ทั้งทีมงานและผู้กำกับเพื่อให้ฉากที่ทุกคนปั้นขึ้นมาสำเร็จด้วยดีครับ
ความฮอตของกีฬาอีสปอร์ต
ผมอยากให้มองว่าอีสปอร์ตเป็นกีฬาชนิดหนึ่งไปเลย เหมือนหมากรุกที่เป็นเกมกระดานก็ยังถูกจัดให้เป็นกีฬาได้เช่นกัน ถ้าผมบอกคนอื่นทุกคนว่าต้องตื่นนอนมาดูฟุตบอลก็จะปกติ แต่ถ้าบอกว่าตื่นขึ้นมาดูเกมก็อาจจะถูกมองว่าไม่ปกติ ซึ่งผมอยากให้ทุกคนมองอีสปอร์ตเหมือนมองกีฬาฟุตบอลที่ก็ใช้ความสามารถในการเล่นเหมือนกัน และไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกับวงการอื่นๆ มันต้องมีคนที่ล้มเหลว คนผิดพลาด และมีคนที่มีความหลงใหลกับมัน ซึ่งคนเหล่านั้นน่ายกย่องนะครับ
เมื่อพอมีหนังที่เราใส่ความเป็นอีสปอร์ตเข้าไปทั้งเรื่อง ในฐานะคนที่ชอบอีสปอร์ตมาก่อนก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้สนใจก็ตาม ผมจึงอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นกระบอกเสียงถึงคนรุ่นผมและทุกๆ คนเล่นเกมที่เติบโตมากับเทคโนโลยี เพราะพวกเขาทุกคนจะเข้าใจในวงการนี้เป็นอย่างดี และพัฒนาต่อยอดมันไปได้ แต่ทางคนที่ยังไม่รู้ก็อยากให้ลองเปิดใจมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ
ภายใต้ความสนุกของ “Mother Gamer” ก็ยังมีประเด็นเรื่องช่องว่างระหว่างวัย
จริงๆ หนังเรื่องนี้มันพูดถึงความแตกต่างของช่วงวัย อย่างนักแสดงที่เห็นก็จะเป็นการต่อสู้ของผมกับ “พี่อ้อม” ที่เป็นแม่ โอมกับเบญจมาศซึ่งเป็นคนสองรุ่นที่แตกต่างกัน อย่างที่หลายคนชอบพูดคือแม่ไม่เข้าใจเราหรอกว่าวัยรุ่นมันเหนื่อย แต่อย่าลืมว่าผู้ใหญ่ก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน มันก็ไม่ได้แปลกถ้าเขาจะอยากให้เราไปในทางที่ดีตามที่เขาขีดไว้ เพราะว่าพวกเขาก็เคยเดินทางนี้มาก่อน ฉะนั้นก็ย่อมจะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่
สุดท้ายแล้วผมคิดว่ามันคือการฟังกัน ยอมรับ และเข้าใจกันมากกว่า แต่เด็กก็มีสิทธิ์เลือกในการลองผิดลองถูกนะ ไม่ใช่ว่าต้องทำตามสิ่งที่เขาบอกอย่างเดียว มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าวัยรุ่นสมัยนี้สามารถคิดเองได้
ส่วนตัวผมเป็นคนที่เชื่อว่าก่อนที่เราจะออกนอกกรอบได้นั้น เราควรเรียนรู้ที่จะอยู่ในกรอบให้ได้ก่อน พอเราจะทำอะไรที่มันนอกกรอบ การที่เราจะเป็นตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นเราควรจะต้องเรียนรู้และทำตามสิ่งที่มันเกิดขึ้น สิ่งที่มันเป็นกฎระเบียบ ผมสังเกตทุกคนพยายามจะบอกว่าการเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเรา อยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว อยากเดินทางออกไปพบสิ่งใหม่ๆ สำหรับผมจึงมองว่าการทำตามกรอบมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เหมือนเป็นการได้เรียนรู้ ถ้าเราไม่ชอบ ก็ได้รู้ว่าเราไม่ชอบ แล้วเราจะได้ไม่ต้องไปเดินทางนั้นด้วยตัวของเราเองในอนาคต
ความน่าสนใจโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้
ตอนที่ผมได้อ่านบทและไปแคสต์ ผมเองก็ไม่คิดว่าหนังมันจะแปลกขนาดนี้นะ แต่ก็แปลกในด้านดีนะครับ มันรวมส่วนผสมหลายๆ อย่างที่ไม่น่าจะมาอยู่ด้วยกันได้ และมีความลงตัวด้วย เพราะในเมืองไทยเท่าที่ผมรู้ก็ไม่ค่อยมีหนังประเภทนี้มากนัก คือเป็นหนังเกี่ยวกับเกมที่มีครบทุกอารมณ์ และเราก็ได้ทีมงานที่มีคุณภาพทั้งนั้นเลย ผมเองก็ดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาเหล่านี้ครับ ถ้าให้แบ่งประเภทของหนังเรื่องนี้คือยากมากนะครับ มันมีทั้งพาร์ตดราม่าแม่-ลูก, แอคชั่นของวัยรุ่น, มิตรภาพ, ทีม หรือเกม มันผสมกันอยู่ในหนังทั้งหมด และเป็นหนังสำหรับเจน Z ที่คนทุกเจนสามารถไปดูได้เลย รวมถึงกระบอกเสียงของหลายๆ เสียงที่เขาพยายามพูดกันอยู่ว่า เกมไม่ใช่สิ่งที่ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่มันเป็นสิ่งที่ดีถ้าแบ่งเวลาได้ และอีสปอร์ตก็เป็นกีฬาอย่างหนึ่งที่ดีนะ ก็อยากให้ทุกคนไปดู “Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่” กันครับ
Comments