เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป (A.S. Watson Group) ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามมุ่งเน้นการส่งเสริมความยั่งยืนเสมอ และผลักดันริเริ่มเรื่องความยั่งยืนหลายประการในตลาดเอเชียและยุโรปทั้ง 13ตลาด เพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายสำคัญสองประการในปีนี้ตามแผนสู่ความยั่งยืนภายในปี 2573ได้แก่ การลดก๊าซเรือนกระจกลง 40% และลดความเข้มข้นในการใช้ไฟฟ้า 30% และคืน 10,000 รอยยิ้มให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งด้วยการทำศัลยกรรมรักษาฟรีให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ภายในปี 2573
มาลีนา ไหง หัวหน้าระดับกลุ่มกรรมการผู้อำนวยการของ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปและประธานกรรมการบริหาร เอ.เอส.วัตสัน (เอเชียและยุโรป) กล่าวว่า “ในฐานะร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรามีพันธะสัญญาด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นจากเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกของเรา เป้าหมายทางสังคมของเราคือ“การมอบรอยยิ้มให้แก่ลูกค้า” ซึ่งเป็นค่านิยมหลักของธุรกิจและหยั่งรากลึกจนกลายเป็นสิ่งที่เรายึดถือมาตั้งแต่แรกเริ่มตั้งแต่อดีตในปีพ.ศ. 2431เราได้ให้บริการยารักษาโรคโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่ต้องการจนถึงการดูแลป้องกันสุขภาพผู้คนจากโควิด19ด้วยการผลิตหน้ากากอนามัย และสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกัน”
“เราให้บริการลูกค้ามากกว่า 5.9 พันล้านคนในทุกๆปีทั่วโลกและเรารู้สึกขอบคุณที่มีสังคมที่แข็งแกร่งที่ร่วมกันทำสิ่งที่ดีเพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”มาลีนากล่าวเสริม
โลกที่น่าอยู่ขึ้นกับวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573
กลุ่มบริษัทร้านค้าปลีกรวมถึงผู้ผลิตแบรนด์สินค้า ภายใต้เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ปประกาศวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 โดยมีแนวคิดที่ชัดเจนสำหรับทศวรรษที่กำลังมาถึง
1. พลังงาน:ลดความเข้มข้นของกระแสไฟฟ้าลง 30%ภายในปี 2573เมื่อเทียบกับข้อมูลปี2558
2. ก๊าซเรือนกระจก:ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ระยะที่ 1 และ 2) ลง 40% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับข้อมูลปี2558
3. พลาสติก: เลิกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นภายในปี 2573 และหลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ฟุ่มเฟือยและลดการใช้พลาสติกพีวีซี ใช้สารพลาสติกที่รีไซเคิลได้อย่างน้อย 20% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายในปี 2568
4. สังคม:เอ. เอส. วัตสัน ตั้งเป้าคืนรอยยิ้ม 10,000 รอยยิ้มให้กับเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ โดยสนับสนุนการผ่าตัดศัลยกรรมฟรีภายในปี 2573แคมเปญ “Give a Smile”
“ลดรับเพื่อรักษ์โลก”งดให้ถุงบริการพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทุกสาขาตั้งแต่ปี2563
สำหรับวัตสันประเทศไทยได้ร่วมสานต่อเจตนารมณ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการจัดแคมเปญ“ลดรับ เพื่อรักษ์โลก”งดแจกถุงพลาสติกและหลอดน้ำดื่ม ทุกขนาด ทุกสาขา เมื่อต้นปี2563 โดยแคมเปญนี้เป็นนโยบายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกแห่งเข้าร่วมกว่า 47 หน่วยงานในการดำเนินงานเพื่อลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและเพื่อเป็นไปตามมติของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อมวัตสันได้งดให้บริการถุงพลาสติก ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา
Sustainable Choices สินค้าเพื่อความยั่งยืนในร้านวัตสัน เริ่มจำหน่ายในปลายปี 2563
นอกจากนี้วัตสัน ประเทศไทย ได้คัดสรรกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาจำหน่ายภายในร้านวัตสันตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมา โดยวางจำหน่ายแล้วกว่า29สาขาทั่วประเทศและมีสินค้าให้เลือกมากถึงกว่า2,000รายการจากหลากหลายแบรนด์ดังภายใต้ 4 มาตรฐานการคัดเลือก คือ
1. วัตถุดิบและส่วนผสมที่ดีขึ้น มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
2. บรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น ลดการใช้พลาสติกและให้หันกลับมาใช้พลาสติกที่มีคุณภาพดีขึ้นใช้กระดาษให้น้อยลงและต้องใช้กระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. บรรจุภัณฑ์แบบเติมใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ได้หลายครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์เก่ามาเติม
4. ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม มีส่วนผสมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
เพราะเราเชื่อว่าการร่วมมือกันคนละเล็กละน้อยก็สามารถก่อเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ได้โดยเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็น BetterIngredientsที่เป็นการเลือกทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนมาใช้ และลดการใช้วัตถุดิบให้น้อยที่สุดเพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกได้ ถัดมาในส่วนของBetter Packagingนั้น
เอ.เอส. วัตสันได้ให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็นด้วยการไม่ใช้บรรจุภัณฑ์อย่างฟุ่มเฟือย ลดการใช้พีวีซีลงครึ่งหนึ่ง และมุ่งมั่นสู่การเลิกใช้พีวีซีภายในปี 2573นอกจากนี้ยังส่งเสริมในเรื่องของ Refill Pack ซึ่งเป็นการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ได้หลายครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์เก่ามาเติมซึ่งจะช่วยลดขยะได้ดีกว่าการนำไปรีไซเคิล และที่สำคัญช่วยลดการสร้างขยะพลาสติกที่ไม่จำเป็นอีกทางหนึ่งด้วย และในส่วนสุดท้ายเอ.เอส. วัตสันก็ยังคงเดินหน้าสนับสนุนClean beauty กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ความงามที่เป็นมิตรต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านการสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยปราศจากสารต้องห้ามอีกด้วยวัตสัน ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะสร้างโลกในแบบLook Goodและ Feel Greatให้ทุกคนได้หันมาตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลกและสิ่งแวดล้อมของเราในระยะยาวต่อไป
“Look Good. Do Good. Feel Great.” เพื่อโลกและชุมชนของเรา
วัตสัน ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ“Look Good. Do Good. Feel Great.” เพื่อเป้าหมายทางสังคมโดยริเริ่มในวันคุ้มครองโลก(Earth Day)ภายในเดือนเมษายนนี้พร้อมทั้งเสริมสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน ผสานความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อนำเสนอทางเลือกของสินค้าเพื่อความยั่งยืนให้แก่ลูกค้าต่อไป
Comments