เปิดประสบการณ์ Chefs Table ย้อนสู่ยุค 90s บน Rooftop Bar ใจกลางเมือง ณ ร้าน Throwbackตึกสีลมเอจ - Mixmaya.Com
  • Home
  • pr
  • เปิดประสบการณ์ Chefs Table ย้อนสู่ยุค 90s บน Rooftop Bar ใจกลางเมือง ณ ร้าน Throwbackตึกสีลมเอจ
เปิดประสบการณ์ Chefs Table ย้อนสู่ยุค 90s บน Rooftop Bar ใจกลางเมือง ณ ร้าน Throwbackตึกสีลมเอจ

เปิดประสบการณ์ Chefs Table ย้อนสู่ยุค 90s บน Rooftop Bar ใจกลางเมือง ณ ร้าน Throwbackตึกสีลมเอจ


ชวนทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลิ้มลองอาหารมื้อพิเศษจากร้าน Throwback ที่ได้ผ่านการค้นหาวัตถุดิบที่จะทำให้ท่านผู้อ่านย้อนเวลากลับไปนึกถึงห้วงเวลาในอดีต ซึ่งตรงตามคอนเซปร้านที่ว่า “Not just food, but we also serve memories.”
.
.


“Chef Table: 6-Throwback Course Menu” คอร์สเมนูที่ผสมผลานกับคอกเทลที่มีเอกลักษณ์เกิดขึ้นจากการรังสรรค์ไอเดียร่วมกัน ระหว่างเชฟแฮม Head Chef ประจำร้านที่มีประสบการณ์การทำอาหารมากว่า 10 ปี และคุณคิว Mixologist มือหนึ่งประจำร้าน
.
.
“Chef Table: 6-Throwback Course Menu”


มื้ออาหารดังกล่าวประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลักและตบท้ายด้วยของหวาน รวมทั้งหมด 6 คอร์สโดยแต่ละเมนู โดยทางร้านได้เลือกสรรวัตถุดิบตัวตั้งต้นที่ทำให้ท่านย้อนเวลานึกถึงอดีต แล้วนำเสนอไอเดียออกมาเป็นเมนูอาหารและคอกเทลสูตรพิเศษ ในระหว่างคอร์ส ทุกท่านจะได้ชิมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยผนึกไอเดียความเป็น Throwback มากยิ่งขึ้น
.
.
คอร์สแรก ใน 6-Throwback Course Menu


ทางร้านได้หยิบหยกและเปิดตัวเมนูแรกด้วยวัตถุดิหลักอย่าง Basil หรือใบกะเพรา ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูสิ้นคิดสำหรับมื้ออาหารของใครหลาย ๆ คน
สำหรับเมนูนี้ทางร้าน Throwback จะเสิร์ฟร้อนมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยด้วยแจงลอนกุ้งเสียบตะไคร้ อาหารที่หากินได้ยากในปัจจุบัน จับคู่กับคอกเทลตัวแรกอย่าง “Good Old Times” ที่มีส่วนผสมของเสาวรส ชินนามอนและที่ลืมไม่ได้ คือ ใบกะเพรา เพื่อเพิ่มความเผ็ดปลายรสสัมผัสด้วยเช่นกัน
.
.

คอร์สที่สองใน 6-Throwback Course Menu


ตามมาด้วยวัตถุดิบ Mala หรือหม่าล่ายอดฮิตในปัจจุบัน ความเผ็ดที่อยากคงไว้ให้ทุกคนได้ลองชิม และผสานความ 90s ด้วยหมี่กรอบสีชมพู อาหารไทยโบราณ ที่มีรสหอมหวาน แน่นอนว่าทางร้านได้เติมความเผ็ดของหม่าล่าเข้าไป เพื่อให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น ตัดความหวาน และท็อปด้วยทาทาร์แหนม ของกับแกล้มเหล้ายอดฮิตทุกยุคทุกสมัย ความเผ็ดหวานซ่อนเปรี้ยวของเมนูนี้ จับคู่กับคอกเทลตัวที่สอง “Young at Heart” ชื่อดูมีความหวาน ใส ๆ แต่บอกเลยว่า ไม่เบา ด้วยรสชาติของขิง หม่าล่า และพริกไทย ทำให้คอกเทลตัวนี้มีความแรงถึงใจตบความหวานจากหมี่กรอบได้อย่างลงตัว
.
.

คอร์สที่สาม ใน 6-Throwback Course Menu


วัตถุดิบที่พบเห็นได้ตามรถเข็นผลไม้ ของดองต่างๆ เชฟแฮมได้หยิบเอาปูนิ่มมาทอดทำเป็นเมี่ยงและสอดไส้ด้วยมะม่วงดอง ให้รสชาติซ่อนเปรี้ยว จิ้มกับน้ำปลาหวาน คลุกเคล้ากันได้รสชาติเมี่ยงไทยๆแต่ฟิวชั่นกับมะม่วงดอง เสิร์ฟคู่กับคอกเทล “Fly Me to The Moon” คอกเทลจาก Bourbon รสชาติเข้มข้นหยอดด้วยน้ำมะนาว ท็อปด้วยมะม่วงดองและมะยมดอง
.
.

คอร์สที่ห้า ใน 6-Throwback Course Menu


ขนมที่ใครหลายๆคน อาจจะลืมไปแล้วอย่างเซียงจา เชฟแฮมและคุณคิวก็นำมาเป็นส่วนผสมของอาหารและคอกเทลเช่นกัน เชฟแฮมได้ไอเดียเริ่มต้นมาจากไก่กอแระที่หลายๆคนน่าจะรู้จัก ซึ่งเป็นไก่เสียบไม้สีส้ม ๆ แต่เรามาครีเอทและนำเสนอเป็นปลากะพงซูวีแทน พร้อมราดซอสบ๊วยกอและจับคู่กับคอกเทล Bring Back Memories
Infused Gin กับเซียงจา พร้อมรสชาติ Infused Vermouth ของบ๊วย ใครที่เป็นแฟนคลับเก่าเซียงจา อยากให้ลองชิมเมนูนี้ดู รับรองได้ว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน
.
.
เมนูคอร์สหลัก ใน 6-Throwback Course Menu ของเราวันนี้

จะเสิร์ฟด้วย สเต็กเนื้อวากิว หรือสันคอหมู ใส่ซอสหมูปิ้ง ที่หลายๆคนชอบ แน่นอนว่าหมูปิ้งจะขาดข้าวเหนียวไม่ได้ เราจึงมีข้าวจี่กล้วยเสิร์ฟไว้ให้ข้างๆ เรียกได้ว่าเป็นการกินข้าวเหนียวหมูปิ้งในแบบ Chef’s Table ใหม่ๆ พร้อมคอกเทลสูตรพิเศษที่วัตถุดิบหลักคือกล้วย ที่มีชื่อว่า “1973” สูตรจาก Infused Bourbon กับกล้วย ฟังดูแล้วแหม่งๆ แต่บอกเลยรสชาติไม่เป็นรองใคร ท็อปด้วยกล้วยเคลือบชอคโกแล็ตไว้กินล้างปาก ก่อนไปสู่เมนูขนมหวานส่งท้าย
.
.
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานสูตรพิเศษ ซึ่งเป็นคอร์สสุดท้าย ใน 6-Throwback Course Menu

ด้วยวัตถุดิบที่เชฟแฮมได้หยิบยกขึ้นมา ขนมในวัยเด็กสุดแฟนซีอย่างเม็ดเป๊าะแป๊ะ Magic Pop ที่มาในรูปแบบซอง เทใส่ปาก แตกเป๊าะแป๊ะๆในปาก เชฟแฮมได้หยิบมาเป็นส่วนผสมให้กับขนมหวานก่อนจบคอร์สด้วย เครมบูเล่ถั่วเหลืองมะพร้าวอ่อนแช่อิ่ม หอมกลิ่นนมถั่วเหลืองและมะพร้าวอ่อน และตบด้วยคอกเทล I will Survive คอกเทลสีชมพูจากวอดก้าสตรอว์เบอร์รี่ โรยผงรอบแก้วด้วย Magic Pop เลียที่ขอบแก้วแล้วชิมรสน้ำ ได้รสชาติอร่อยติดใจ ก่อนกลับบ้านไปแน่นอน
.
.


คุณพุดจีบ พัดชา กิติไพรวัลย์ ผู้บริหารกล่าวว่า “นอกจากความสนุกของการมาทานอาหารและฟังเพลง สังสรรค์กับเพื่อนแล้ว อีกหนึ่งไอเดียด้วยความสามารถของเชฟเราที่มีความหลงไหลในการทำอาหารสไตล์ Chef’s Table เราจึงอยากนำเสนอเมนูนี้ให้กับทุกท่านได้ลองมาทาน ด้วยตัวบอมเองที่เป็นคนชอบทานอาหารอยู่แล้วและอยากให้ร้าน Throwback ลองนำเสนออาหารที่หลากหลาย และจับกลุ่มคนได้มากขึ้น จึงได้เกิดปิ๊งไอเดียออกมาเป็น Chef Table: 6-Throwback Course Menu”
.
.


เชฟแฮม ศุภกร แก้วน่าน Head Chef ใหญ่ของร้านที่สะสมประสบการณ์มากว่า 10 ปี ในวงการอาหารและยังเคยเปิดร้าน Chef’s Table ของตัวเองมา ก่อนที่จะยกทีมมาอยู่ที่ร้าน Throwback เผยว่า “เมนูที่เสิร์ฟที่นี่ ทุกจานล้วนมาจากสิ่งที่ทำให้ผมนึกถึงตอนสมัยยังเด็ก ที่ได้ทานแล้วต้องร้อง อ๋อ ทันที โดยกรรมวิธีและวัตถุดิบที่เลือกสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมขั้นตอนการปรุงอย่างพิถีพิถัน และผมยังได้ผสานความเป็นโมเดิร์นของร้านเข้าไปด้วย ด้วยการฟิวชั่นกับเมนูในยุคปัจจุบัน เช่น เมนูสเต็กเนื้อวากิวซอสหมูปิ้ง เสิร์ฟพร้อมข้าวจี่กล้วย ผมและ

คุณคิว Mixologist ได้นำวัตถุดิบหลัก คือ กล้วย มาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการคิดเมนูอาหารและคอกเทล pairing กัน ตัวผมเองมีความชอบทานหมูปิ้งมาก และคิดว่าทุกๆคนก็คงคิดเหมือนกันว่า ยามเช้าตื่นมา สิ่งที่คนมองหาคือ ข้าวเหนียวหมูปิ้งร้อนๆ ด่วนๆ ก่อนไปเรียน ไปทำงาน ผมเลยนำเอาซอสหมูปิ้งกลิ่นถ่านไหม้ๆ มาเป็นกิมมิคในการเติมความ 90s เข้าไป และสิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ ข้าวเหนียว ผมไม่อยากให้มันเป็นแค่ข้าวเหนียวร้อนๆธรรมดา เลยทำเป็นข้าวจี่ผสมกล้วย ชุบไข่ร้อนๆจี่บนไฟ ให้รสชาติเค็มมันหวาน เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว”
.
.
นอกเหนือจากเมนู Chef’s Table แล้ว ร้าน Throwback ก็เปิดบริการทั้งโซนด้านนอกและด้านใน เป็นคาเฟ่บาร์ ใครที่สนใจอยากจะมาแฮงค์เอาท์ สัมผัสอาหารทั้งไทยและเวสเทิร์น ลองแวะมาเปิดประสบการณ์กับ Throwback ใครอยากทานกาแฟแวะมากลางวัน ใครอยากจิบเบียร์ นั่งชิลแวะมากลางคืน ด้ที่ Throwback ชั้น 9 ตึกสีลมเอจ



สำหรับใครที่สนใจอยากลองมาเปิดประสบการณ์ Chef’s Table: 6 TB course menu สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า (อย่างน้อย 5 วัน - จำกัดวันละ 10 ท่านเท่านั้น) ได้ที่ 061-493-6266 ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 - 24.00 น. ทุกวัน

Comments

pr

VDO Update

Merigin

Related Post