จูน นาตาชา เป็นประธานจัดงาน แข่งขันไกด์นำเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมซอต์ฟพาวเวอร์ไทย ให้ดังไกลทั่วโลก - Mixmaya.Com
  • Home
  • pr
  • จูน นาตาชา เป็นประธานจัดงาน แข่งขันไกด์นำเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมซอต์ฟพาวเวอร์ไทย ให้ดังไกลทั่วโลก
จูน นาตาชา เป็นประธานจัดงาน แข่งขันไกด์นำเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมซอต์ฟพาวเวอร์ไทย ให้ดังไกลทั่วโลก

จูน นาตาชา เป็นประธานจัดงาน แข่งขันไกด์นำเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมซอต์ฟพาวเวอร์ไทย ให้ดังไกลทั่วโลก

จูน นาตาชา เป็นประธานจัดงาน แข่งขันไกด์นำเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมซอต์ฟพาวเวอร์ไทย ให้ดังไกลทั่วโลก

 

 

นอกจากจะเป็นนางเอกภาพยนตร์จากเรื่อง “ปิดป่าหลอน” และเจ้าของเพลง Boys Don't Cry สาวสวยมากความสามารถแล้ว อีกบทบาทหนึ่งของ จูน นาตาชา มณีสุวรรณ์ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือการอุทิศตนเพื่อสังคมมายาวนานกว่า 10 ปี ด้วยการเป็นประธานโครงการ friend of Juneและประธานผู้ก่อตั้งโครงการ WORLD TREND Soft Power ( To the international relations and economy ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะใช้ศักยภาพจากซอฟพาวเวอร์ในมิติต่างๆของประเทศไทยเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ล่าสุดได้จัดการแข่งขันมัคคุเทศก์ ระดับประเทศไทย ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์และผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ทุกด้านของไทย ให้เสน่ห์ไทยดังไกลทั่วโลก พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สู่การเผยแพร่ความเป็นไทยต่อชาติอื่น ให้ต่างชาติอยากมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ประเทศไทย สู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆของประเทศ โดยงานมีขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ณ โรงภาพยนตร์วารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จัดโดยบริษัทเจ ดี มาน มาร์เก็ตติ้ง แพลนเนอร์ จำกัด

 

 

จูน นาตาชา ให้สัมภาษณ์ว่า “ที่ผ่านมาจูนทำกิจกรรมหลากหลายเพื่อช่วยเหลือสังคมมากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมและส่งเสริมการเรียนรู้ให้ทุนการศึกษาแก่น้องๆ นักศึกษา ในโครงการ friend of June,การไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างแดน และอื่นๆอีกมากมาย ล่าสุดจูนได้เป็นประธานผู้ก่อตั้งโครงการ WORLD TREND Soft Power (to the international relations and economy) จูนพูดเสมอว่าในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยเราเองและทั่วโลกต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายมิติ ไม่จะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ซึ่งบางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้และพวกเราก็ล้วนได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านั้น เช่น โรควิบัติใหม่อย่างโควิด19 ,climate change,ภัยคุกคามในมิติต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้บริบทในบ้านเมืองเราเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือแม้แต่การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ทุกแขนงเกิดความเสียหายทั่วโลก ตอนนี้เหตุการณ์หลายอย่างคลี่คลายลงไปแล้ว เราจึงต้องมีการฟื้นฟูทุกอย่างให้กลับมาดีเหมือนเดิม หรือให้ดีมากกว่าเดิม จูนจึงดำเนินการจัดตั้งโครงการนี้ขึ้น ในวันที่ 19 กันยายน 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะใช้ศักยภาพจากซอฟพาวเวอร์ในมิติต่างๆของประเทศไทยเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ เช่นด้านสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม ดนตรี และอื่นๆ เพื่อใช้ต่อยอดในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆของไทยได้ เพื่อเพิ่มค่า GDP ของไทยให้มากขึ้นด้วย เพราะนั่นความว่าเศรษฐกิจในบ้านเราดีขึ้น พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยและรายใหญ่ ทุกอาชีพก็อยู่ได้ และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศด้วยค่ะ”

 

จูนมีส่วนในการส่งเสริมโครงการนี้อย่างไรบ้าง

 

“จูนในฐานะประธานผู้จัดงาน ได้จัดการแข่งขันมัคคุเทศก์ หรือไกด์นำเที่ยวระดับประเทศไทย ประจำปี 2567 ครั้งนี้จูนได้โฟกัสไปที่วงการมัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยวของไทยค่ะ เพราะไกด์นำเที่ยวไทยถือเป็นกระบอกเสียงด่านแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้มาเจอและได้สัมผัสทุกอย่างที่เป็นไทย ผ่านการนำเสนอของไกด์ จูนจะไม่สามารถมองข้ามกระบอกเสียงสำคัญนี้ไปได้เลยค่ะ ดังนั้นงานที่จูนจัดขึ้น จึงเป็นการดึงศักยภาพของไกด์นำเที่ยวออกมา และเปิดเวลาให้เขาได้พูดถึงการท่องเที่ยวไทยในทศวรรษนี้ ว่าเป็นอย่างไร และควรเป็นอย่างไรต่อไป จะร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้อย่างไร ผ่านมุมมองของไกด์นำเที่ยวผู้ที่ลงภาคสนามจริงค่ะ และทำให้ชาวไทยได้รับรู้ไปด้วยว่า ไกด์ไทยมีความพร้อมและศักยภาพมากเพียงใด ในการเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในทศวรรษนี้ที่หลายอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ เขาจะได้กลับไปบอกต่อที่ประเทศของเขา และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก รายได้ก็จะไหลเข้าสู่ประเทศ การจับจ่ายของนักท่องเที่ยวจะทำให้เม็ดเงินสะพัด พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยรายใหญ่ก็อยู่ได้ ธุรกิจโรงแรมหรือสถานที่เที่ยวก็มีรายได้ตามไปด้วย เรียกได้ว่าการบอกของนักท่องเที่ยว เป็นการโฆษณาเชื้อเชิญที่เราไม่ต้องเสียเงินแลกมาเลยค่ะ เราแค่ดูแลเขาให้ดี ให้เขาประทับใจ จากเสน่ห์ไทยที่เรามีอยู่ในมือนี่แหล่ะค่ะ และอีกมุมนึงถึงแม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีทางโซเชียลจะสามารถทำให้นักท่องเที่ยวหาข้อมูลการท่องเที่ยวเองได้อย่างกว้างขวาง แต่สุดท้ายแล้วเนื้อหาและรายละเอียดความเป็นมาของเสน่ห์ไทย ก็ยังสู้ข้อมูลจากการนำเสนอจากไกด์นำเที่ยวไม่ได้ซะทีเดียว เพราะไกด์นำเที่ยวแต่ละสถานที่ รู้ลึกซึ้งถึงประวัติ จารีตดั้งเดิมอย่างแท้จริงนั่นเองค่ะ”

 

 

พูดถึงบรรยากาศการประกวดมัคคุเทศก์อาชีพที่มาร่วมแข่งขัน

 

“มัคคุเทศก์อาชีพทั้ง 15 คนที่ผ่านการคัดเลือกได้มาแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 15 ท่านมีความเป็นมืออาชีพ มีมุมมองที่คนทั่วไปไม่รู้ จุดบอด จุดต้องปรับปรุง และแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยในอนาคตด้วย การแข่งขันที่จะคัด 15 คน ให้เหลือ 5 คนสุดท้าย จึงเป็นเรื่องที่หนักใจพอสมควรค่ะ แต่การแข่งขันย่อมต้องมีที่ 1 แต่ถึงแม้คนที่ไม่ได้รางวัล จูนก็อยากจะบอกพวกเขาว่าพวกเขาก็ยังเป็นมัคคุเทศก์มืออาชีพเช่นเดิม ความเก่งกล้าไม่ได้ลดลงเลยค่ะ โดยการจัดงานครั้งนี้มีรางวัลชนะเลิศเป็นเงินสด พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ รวมถึงรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน ร่วม 150,000 บาทค่ะ”

 

 

รู้สึกอย่างไรที่เราเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้โครงการเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจประเทศ

 

  “จูนมี vision ที่แน่วแน่มานานมากแล้วค่ะ กับการส่งเสริมประเทศไทยทุกๆด้าน เพื่อต่อยอดสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ให้ไปสู่จุดยืนใหม่ในระดับโลก เราทำด้วยใจรัก และทำมาหลายปีแล้ว แต่ครั้งนี้จูนทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยจัดการแข่งขันมัคคุเทศก์นี้ขึ้นมา ด้วยงบประมาณส่วนตัวของจูนเองเพียงคนเดียว ซึ่งเต็มใจและภูมิใจมากๆค่ะ ต่อจากนี้โครงการจะมีการสนับสนุนกิจกรรมอะไรอีกนั้น จูนจะพิจารณาตามสถานการณ์บ้านเมือง ณ ตอนนั้นประกอบการตัดสินใจส่งเสริมด้วย เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับทุกฝ่ายสูงสุดค่ะ”

 

 

Comments

pr

VDO Update

Merigin

Related Post