MiXMAYA: จุดเริ่มต้นบีมกับ "Fever"
บีม : ตอนแรกเข้ามาด้วยเหตุผลเพราะว่า สนใจทีมเพลงค่ะ ทีมเพลงนี้ทำเพลงแนวอินดี้ เพราะส่วนตัวหนูชอบฟังเพลงอยู่แล้วก็เลยสนใจอยากจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงค่ะ
MiXMAYA: นิยามคำว่า “ไอดอล” ในความคิดของบีมเป็นยังไง
บีม : จริง ๆ ไอดอลก็เป็นคนธรรมดาเฉยๆ คนนึง เป็นคนปกติไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร ไม่ทำผิดร้ายเเรงจนเข้าคุกและเป็นแบบอย่างที่ดีในแง่ใดแง่หนึ่ง (ยิ้ม)
MiXMAYA: โมเม้นที่ประทับใจในการเป็นสมาชิกวง Fever ที่อยากเล่าให้เราฟัง
บีม : โมเม้นตอนแสดงเสร็จค่ะ เพราะทุกคนก็จะมาให้กำลังใจว่าวันนี้เราผิดพลาดอะไรบ้าง แล้วแบบค่อยเริ่มใหม่ก็ได้ เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่น
MiXMAYA : สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็น “FEVER”
บีม : Fever ทำให้บีมโตเป็นผู้ใหญ่อีกก้าวนึงในการทำงานค่ะ แบบสังคมที่เจอ หลากหลายเรื่องราวต่างๆ เจออะไรเยอะขึ้น คิดว่าถ้าไม่ได้มาเป็นก็คงแค่ทำงานปกติธรรมดาไม่ได้สัมผัสอะไรแบบนี้
MiXMAYA: จำกัดตัวตนความเป็น “บีม”
บีม : จริงๆหนูเป็นคนเงียบๆค่ะ หนูจะไม่ค่อยพูดกับคนที่ไม่สนิท ส่วนใหญ่หนูจะนั่งเงียบแล้วก็แบบดูคนอื่นทำนั่นทำนี่ หนูเป็นคนที่เก็บรายละเอียดและรู้สึกได้ว่าแบบคนนี้รู้สึกยังไง ใครรู้สึกยังไง
MiXMAYA: เสน่ห์ของ “บีม”
บีม : เอ๋? หนูไม่มีนะ (หัวเราะ)
MiXMAYA : ส่วนที่ยากที่สุดในการทำงานเพลงของ “Fever” ในมุมของบีม
บีม : ส่วนตัวหนูมองว่าพาร์ทเต้นค่ะ เพราะหนูเป็นคนเรียนรู้ช้า รับท่าช้า กว่าจะประมวลผลได้ให้ร่างกายเป็นไปตามเพลงมันก็ค่อนข้างยาก เพื่อนบางคนเขารับท่าแป๊บๆก็ทำได้แล้ว แต่หนูต้องใช้เวลามากหน่อย เพราะเราไม่มีพื้นฐานการเต้นเลย เป็นคนที่แค่ชอบฟังเพลงอย่างเดียวจริง ๆ ค่ะ
MiXMAYA: เพลงของ Fever ที่บีมชอบ
บีม : ถ้าในแง่ความหมายชอบ The feeling กับ Password ค่ะ เพราะมันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจดีนะ
MiXMAYA : งานอดิเรกของบีม
บีม : จริง ๆ ก่อนหน้านี้จะชอบทำอาหาร แล้วทำพวกงานฝีมืออะไรอย่างเย็บปัก งานทำมือ มันเป็นความชอบของบีมเลย แอบอยากทำเป็นช็อปงานคราฟอยู่เหมือนกันค่ะ บีมทำพวกงานเฮนเมดมาตั้งแต่เล็กๆ มีอาม่าคอยสอนให้ ดังนั้นงานอดิเรกส่วนมากจะทำอาหารแล้วก็งานถัก แต่ร้อยพวงมาลัยไม่ได้นะคะ (หัวเราะ)
MiXMAYA: บีมในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไงนะ?
บีม : อยากเขียนหนังสือสักเล่มนึงเกี่ยวกับการเดินทางของตัวเอง แต่เป็นกล้องที่ใช้เก็บภาพคือเป็นกล้องฟิล์มทั้งหมด แล้วก็อยากมีร้านเล็กๆของตัวเอง พวกงานคาร์ฟของตัวเอง ที่ตัวเองทำ
MiXMAYA: ความรู้สึกของงาน 2Shot ครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง
บีม : ตื่นเต้นค่ะ มีแฟนคลับที่เดินเข้ามาหาเราแล้วแบบมือสั่น ชีวิตนี้คงไม่มีใครเดินเข้ามาหาเราแล้วแบบมือสั่นขนาดนั้นแล้วล่ะ มันเป็นความรู้สึกที่ใหม่มาก ๆ สำหรับเรา
MiXMAYA : ชีวิตก่อนหน้ากับหลังเข้าวงมันเปลี่ยนอะไรในตัวบีมบ้างหรือเปล่า
บีม : อาจมีในแง่พักผ่อนที่พักผ่อนน้อยลงเฉยๆค่ะ
MiXMAYA : สมมุติติดเกาะร้าง เลือกคนได้ไปด้วยได้คนนึง ใครจะโดนเลือกไปด้วยนะ?
บีม : ซูค่ะ อย่างน้อย ๆ หนู2คนก็ทำอาหารเป็น เรา 2 คนก็ต้องรอดแหละ ใครสักคนจะไม่อดตาย (หัวเราะ)
MiXMAYA : หนังสือที่อยากแนะนำให้ทุกคนลองอ่าน
บีม : มีค่ะ "ร้านหนังสือเลขที่ 84 ถนนแชริงครอสส์" เป็นเล่มเล็กๆหนังสือแปล เล่าเรื่องราวของคนสองคนที่ไม่เคยเจอกัน แล้วเค้าทำงานอยู่ในหนังสือเก่าแล้วส่งจดหมายคุยกัน มันเป็นเรื่องเล็กๆที่แบบอบอุ่นมากๆ โมเม้นแบบเราได้คุยกับเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนกัน แต่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยสักครั้ง อีกเล่มคือ The heart of darkness ค่ะ เป็นหนังสือแปลเหมือนกัน เนื้อหาจะพูดเกี่ยวกับมนุษย์ถึงความโหดร้ายของคนเราทำนองนี้
MiXMAYA : สิ่งที่ยากที่สุดของการทำงานเป็นไอดอลในมุมของ “บีม”
บีม : การซ้อมค่ะ เพราะหนูว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการต้องรับมือค่ะ อย่างที่เคยบอกมันยากนะ หนูไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เลยต้องพยายามมากขึ้นไปอีกเพื่อตามเพื่อนให้ทัน
MiXMAYA : ความในใจที่อยากฝากข้อความถึงแฟนคลับ
บีม : ขอขอบคุณที่ติดตามพวกเราทุกคนมาตลอดนะคะ แล้วก็ฝากติดตามไปเรื่อย ๆ พวกเราก็จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ มาพูดคุยให้ได้นะคะ หลายคนเค้าก็แบบชอบเล่าเรื่องยาวๆ ให้ฟัง บีมก็อ่านตลอดนะคะ เเละตอนนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรอยู่ก็สู้ ๆ นะคะ
ขอขอบคุณสถานที่: D Maniac Studio
Comments